แนะนำ 5 พืชผักสมุนไพรที่ใช้ปลูกเป็นรั้วกินได้
ปลูกง่าย ไม่ต้องการการดูแลรักษามากนัก ทนต่อโรคและแมลงได้ดี เพียงแค่ให้นน้ำอย่างสมสม่ำเสมอ เป็นครั้งคราว ก็สามารถเจริญเติบโตได้แล้ว มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ
1.กะเพรา
สมุนไพรใกล้ตัวที่ใครก็ต้องรู้จัก เพราะเป็นส่วนประกอบหลักของเมนูเด็ดประจำชาติอย่าง ผัดกะเพรา
สรรพคุณของกะเพรา ช่วยแก้ปวดท้อง ท้องอืด แก้ลมจุกเสียดแน่นท้อง ขับลม ลดน้ำตาลในเลือด
โดยกะเพราถือเป็นสมุนไพรที่ปลูกง่ายมาก ทำได้ทั้งโดยวิธีเพาะเมล็ด และวิธีชำกิ่ง ไม่ต้องดูแลรักษาอะไรเป็นพิเศษ เพียงแค่รดน้ำเช้าเย็นก็พอแล้ว
2. โหระพา
พืชผักที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับกะเพรา แต่ใบจะมีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้นิยมนำมาปรุงอาหารหลายชนิดสามารถดับกลิ่นคาวต่างๆ ได้ดี
โหระพา มีสรรพคุณ ช่วยให้เจริญอาหาร แก้ปวดหัวแก้หวัด จุกเสียดแน่นท้อง ท้องอืด-ท้องเฟ้อ และยังสามารถไล่ยุงได้อีกด้วย
การปลูกสามารถทำได้เหมือนกับกะเพราะคือทำได้ทั้งโดยวิธีเพาะเมล็ด และวิธีชำกิ่ง รดน้ำเช้า-เย็นก็เพียงพอให้เติบโตจนใช้ประโยชน์ได้แล้ว
3. ตะไคร้
พืชสมุนไพรที่ได้รับความนิยมในการบริโภค เสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยซ่อมแซมระบบประสาทได้
ช่วยลดอาการอักเสบ ปวดกล้ามเนื้อ ป้องกันโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ ช่วยแก้และบรรเทาอาการหวัด
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง รักษาโรคหอบหืด และใช้ไล่แมลงได้
4. สะระแหน่
ผักสมุนไพรที่มีรส เผ็ด เย็น มีกลิ่นหอม นิยมนำมาประกอบอาหาร หรือกินสดแกล้มกับยำ พร่า ลาบ
สรรพคุณ ช่วยย่อยอาหาร ขับลม บรรเทาอาการวิงเวียน หน้ามืด อาการหวัดคัดจมูก แก้อักเสบ ฆ่าเชื้อในช่องปาก แก้ปวดฟัน
สะระแหน่สามารถเพาะปลูกได้ง่าย ต้องการแค่หญ้าหรือฟางมาคลุมไว้ด้านบนในช่วงที่อากาศหนาว ดินที่เหมาะสมในการปลูกคือดินร่วนปนทรายที่ซึ่งน้ำสามารถไหลซึมได้อย่างสะดวก
ต้นอ่อนทานตะวัน
ต้นอ่อนทานตะวัน ผักที่กำลังมาแรงมาให้โปรตีนสูงที่มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย ช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของกล้ามเนื้อและระบบประสาท
ไฟเบอร์สูง ช่วยกระตุ้นระบบการขับถ่ายได้ดี สีเขียวในดอกทานตะวันเป็นแหล่งพลังงานทางโภชนาการที่เต็มไปด้วยวิตามิน A, B complex, D และ E นอกจากนี้ยังมีแร่ธาตุ เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โพแทสเซียม ฟอสฟอรัส และ เลซิตินที่ช่วยสลายกรดไขมันสะสมในหลอดเลือดได้
มีธาตุเหล็ก, แคลเซียม และโฟเลตสูง จำเป็นต่อคุณแม่ตั้งครรภ์ ปกป้องไม่ให้เกิดความบกพร่องต่อท่อประสาทและการพัฒนาการของทารก นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิตทำให้คุณแม่มีความผ่อนคลายและลดความตึงเครียดลงได้
วิธีปลูกนั้นง่ายมากๆ เพียงนำเมล็ดต้นอ่อนทานตะวันแช่น้ำประมาณ 7-8 ชั่วโมง หลังจากนั้นบ่มเมล็ดอีกประมาณ 12 ชั่วโมง โรยดินชั้นล่างในภาชนะก่อน จากนั้นโปรยเมล็ดต้นอ่อนที่บ่มเตรียมไว้ แล้วโปรยดินกลบทับอีกชั้น หลังจากนั้น 2 วัน ก็จะเริ่มงอกและกินได้เมื่อครบ 7 วัน